เมนู

แก่ชนเหล่าอื่น. ก็เมื่อภิกษุใช้ให้ญาตินำจตุปัจจัยมาตราบเท่าจนถึง 7 ชั่วเครือ
สกุล โดยสืบ ๆ กันมาแห่งบุตรของญาติ 10 จำพวก มีพี่ชายเป็นต้นเหล่านั้น
ไม่เป็นการทำวิญญัติ เมื่อทำเภสัช (แก่ชนเหล่านั้น) ก็ไม่เป็นเวชกรรม
หรือไม่เป็นอาบัติ เพราะประทุษร้ายสกุล. ถ้าพี่สะใภ้ น้องสะใภ้ หรือพี่เขย
น้องเขย เป็นไข้, ถ้าเขาเป็นญาติ, จะทำเภสัชแก่ญาติแม้เหล่านั้น ก็ควร.
ถ้าเขามิใช่ญาติพึงทำให้แก่พี่ชาย และพี่หญิง ด้วยสั่งว่า จงให้ในที่ปฏิบัติของ
พวกท่าน. อีกอย่างหนึ่ง พึงทำให้แก่บุตรของเขา ด้วยสั่งว่า จงให้แก่มารดา
และบิดาของพวกเจ้าเถิด. พึงทราบวินิจฉัยในบททั้งปวงโดยอุบายนี้. อันภิกษุ
เมื่อจะใช้สามเณรทั้งหลาย ให้นำเภสัชมาจากป่าเพื่อประโยชน์แก่พี่สะใภ้ น้อง
สะใภ้เป็นต้นเหล่านั้น ควรใช้พวกสามเณรที่เป็นญาติให้นำมา หรือ พึงให้นำ
มาเพื่อประโยชน์แก่ตนแล้วจึงให้ไป. แม้พวกสามเณรผู้ ไม่ใช่ญาติเหล่านั้น
ก็ควรนำมาด้วยหัวข้อวัตรว่า พวกเราจะนำมาถวายพระอุปัชฌายะ. โยมมารดา
และบิดาของพระอุปัชฌายะ เป็นไข้ มายังวิหาร, และพระอุปัชฌายะหลีกไป
สู่ทิศเสีย. สัทธิวิหาริก ควรให้เภสัชอัน เป็นของ ๆ พระอุปัชฌายะ. ถ้าไม่มี
ควรบริจาคเภสัชของตน ถวายพระอุปัชฌายะให้ไป. แม้เมื่อของ ๆ ตนก็ไม่มี
ควรแสวงหาทำให้เป็นของ ๆ พระอุปัชฌายะแล้วให้ไป โดยนัยดังกล่าวแล้ว.
ในโยมมารดาและบิดาของสัทธิวิหาริก แม้พระอุปัชฌายะก็ควรปฏิบัติเหมือน
อย่างนั้นเหมือนกัน. ในอาจารย์และอันเตวาสิกก็นัยนี้.

[ภิกษุควรทำยาให้แคน 5 จำพวก]


บุคคลแม้อื่นใด คือ คนจรมา 1 โจร 1 นักรบแพ้ 1 ผู้เป็น
ใหญ่ 1 คนที่พวกญาติสละเตรียมจะไป 1 เป็นไข้เข้าไปสู่วิหาร ภิกษุผู้ไม่
หวังตอบแทน ควรทำเภสัช แก่คนทั้งหมดนั้น. ตระกูลที่มีศรัทธาบำรุงด้วย

ปัจจัย 4 ย่อมตั้งอยู่ในฐานเป็นมารดาและบิดาของภิกษุสงฆ์. ถ้าในตระกูลนั้น
มีคนบางคน เป็นไข้, ชนทั้งหลายเรียนขอเพื่อประโยชน์แก่ผูเป็นไข้นั้นว่า
ท่านขอรับ ! ขอพระคุณท่านทำเภสัชให้ ด้วยความวิสาสะเถิด, ไม่ควรให้
ทั้งไม่ควรทำเลย. ก็ถ้าพวกเขารู้สิ่งที่ควร เรียนถามอย่างนี้ว่า ท่านขอรับ !
เขาปรุงเภสัชอะไรแก้โรคชื่อโน้น ? ภิกษุจะตอบว่า เขาเอาสิ่งนี้และสิ่งนี้ ทำ
(เภสัช) ดังนี้ ก็ควร. ก็ภิกษุถูกคฤหัสถ์เรียนถามอย่างนี้ว่า ท่านขอรับ !
มารดาของกระผมเป็นไข้ ขอได้โปรดบอกเภสัชด้วยเถิด ดังนี้ ไม่ควรบอก.
แต่ควรสนทนาถ้อยคำกะกันและกันว่า อาวุโส ! ในโรคชนิดนี้ ของภิกษุ
ชื่อโน้น เขาปรุงเภสัชอะไรแก้ ? ภิกษุทั้งหลายเรียนว่า เขาเอาสิ่งนี้และนี้
ปรุงเภสัช ขอรับ ! ฝ่ายชาวบ้าน ฟังคำสนทนานั้นแล้ว ย่อมปรุงเภสัชแก่
มารดา; ข้อที่ภิกษุสนทนากันนั้น ย่อมควร.

[เรื่องพระมหาปทุมเถระสนทนาเรื่องยาแก้โรค]


ได้ยินว่า แม้พระมหาปทุมเถระ เมื่อพระเทวีของพระเจ้าวสภะเกิด
ประชวรพระโรคขึ้น ก็ถูกนางนักสนมคนหนึ่งมาเรียนถาม ท่านก็ไม่พูดว่า
ไม่รู้ ได้สนทนากับพวกภิกษุเหมือนอย่างที่กล่าวมาแล้วนนี้แล. ข้าราชบริพาร
ฟังคำสนทนานั้นแล้ว ได้ปรุงเภสัชถวายแด่พระเทวีพระองค์นั้น. และเมื่อ
พระโรคสงบลงแล้ว ข้าราชบริพารได้บรรทุกผอบเภสัชให้เต็มพร้อมทั้งไตร
จีวรและกหาปณะ 300 นำไปวางไว้ใกล้เท้าของพระเถระ แล้ว เรียนว่า ท่าน
เจ้าข้า ! โปรดทำการบูชาด้วยดอกไม้เถิด. พระเถระคิดว่า นี้ชื่อว่าเป็นส่วน
ของอาจารย์ แล้วให้ไวยาจักรรับไว้ด้วยอำนาจเป็นของกับปิยะ ได้ทำการบูชา
ด้วยดอกไม้แล้ว. ภิกษุควรปฏิบัติในเภสัชอย่างนี้ก่อน.